กราฟราคามักจะมีพฤติกรรมซ้ำให้พบเห็นอยู่เสมอ ซึ่งโดยรวมแล้วมันเกิดจากปฏิกิริยาตอบสนองของจิตวิทยาเจ้าตลาด ที่มักจะทำอะไรคล้าย ๆ กัน หรือตอบสนองต่อการกระทำคล้าย ๆ เดิม จนเกิดเป็นที่มาของการวิเคาระห์กราฟทางเทคนิค และคุณสามารถใช้ เทคนิคการอ่านกราฟง่าย ๆ 3 ข้อนี้ เพื่อทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
การดูแนวรับแนวต้าน
แนวรับแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญที่อยู่กับกราฟเสมอ นักเทรดหนีไม่พ้นกับการดูแนวรับแนวต้านที่จะใช้ในการเทรดอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นในกรอบเวลาที่กว้างหรือแคบ ล้วนแต่ซ่อนนัยสำคัญของระดับแนวรับ แนวต้านไว้เสมอ โดยส่วนใหญ่แล้วแนวรับ-ต้าน ปัจจุบันจะมีความสัมพันธ์กับแนวรับ-ต้าน ในอดีตเสมอ มันอาจจะเคยเป็นราคาที่ตรึงใจหรือเป็นราคาที่ทำให้ผู้คนเกิดความหวั่นไหว ณ บริเวณนั้น หรือพูดง่าย ๆ ว่า แนวรับ-ต้าน เก่าจะกลายมาเป็นแนวรับ-ต้านใหม่ สอดคล้องกับทฤษฎี Technical Analysis ดังคำที่กล่าวไว้ว่า ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยอยู่เสมอ
การดู Timeframe
มิติของกรอบเวลา มีความสัมพันธ์โดยตรงกับกราฟแท่งเทียน เนื่องจากแท่งเทียนนั้น มีองค์ประกอบสำคัญทั้งหมด 4 อย่าง คือ ราคาเปิด ราคาปิด จุดสูงสุด และจุดต่ำสุด ซึ่งมันจะเคลื่อนไหวไปตามแต่ละกรอบเวลา แม้ในกรอบเวลาที่ใหญ่กว่าเช่น Time Frame Day จะมีความสำคัญ และให้สัญญาณหลอกที่น้อยกว่ากรอบเวลาแคบ ๆ อย่างเช่น intraday (กรอบเวลาที่ต่ำกว่าวันลงมา)ซึ่งมักจะพบกับความผันผวนและสัญญาณหลอกอยู่บ่อยครั้ง แต่หากสังเกตให้ดี ก็จะพบว่า การสร้างแนวโน้มใหญ่ ๆ ก็มักจะเกิดมาจาก การก่อตัวในคลื่นระลอกเล็ก ๆ แทบทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่อาจตอบได้ว่า กรอบเวลาใดที่มีความสำคัญที่สุด แต่เราสามารถเลือกพิจารณากรอบเวลาที่เหมาะสมกับการเทรดของเรามากที่สุดเท่านั้นเอง
ปริมาณการซื้อขาย
ปริมาณการซื้อขายสามารถบอกพฤติกรรมความต้องการในตลาด หรืออารมณ์ของตลาดได้ หรือพูดง่าย ๆ คือ ปริมาณการซื้อขายที่มีอยู่มากมายมหาศาล เกิดขึ้นจากความต้องการซื้อของนักลงทุนรายใหญ่ที่มีเม็ดเงินจำนวนมากในการลงทุน เราเรียกนักลงทุนเหล่านี้ว่า วาฬ เมื่อนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้ลงเงินทั้งหมดที่มีในการซื้อหรือขาย เกิดเป็นปริมาณการซื้อขายที่มากจนสั่นสะเทือนไปทั้งวงการตลาดคริปโต จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กราฟเกิดการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง เช่น ร่วงลงมาต่ำอย่างน่าใจหาย หรือบินสูงขึ้นไป จนคนธรรมดาอย่างเราเอื้อมไม่ถึง การวิเคาระห์การฟจากปริมาณการซื้อขายเช่นนี้ทำให้เทรดเดอร์สามารถแกะรอยทิศทางการไหลของเงินได้ โดยใช้เทคนิคจิตวิยาเจ้าตลาด หรืออารมณ์ของเจ้าตลาด
จังหวะ คือทุกสิ่งทุกอย่างของการเทรดสายเทคนิค เพราะมันจะสร้างความได้เปรียบให้กับเราตั้งแต่เริ่มต้น และที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ การควบคุมความเสี่ยง ต้องมีจุดตัดขาดทุนไว้ในใจเสมอเพราะความไม่แน่นอน คือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ต่อให้มีเทคนิคที่ดีแค่ไหน หรือมี เทคนิคการอ่านกราฟง่าย ๆ ก็ตาม เราต้องไม่ลืมที่จะบริหารจัดการกับความเสี่ยง หรือ Money management ด้วย เมื่อปิดกั้นหนทางแห่งความสูญเสียอย่างหนักได้แล้วที่เหลือจากนั้นก็จะมีแต่เพียงกำไร