คริปโต คือสกุลเงินดิจิทัลที่มีเทคโนโลยี Blockchain อยู่เบื้องหลัง แล้ว คริปโตคือบิทคอยน์ ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่มือใหม่หลาย ๆ คน ยังเข้าใจผิด แม้จะเป็นเรื่องพื้นฐานที่เริ่มจะคุ้นชินกันแล้ว แต่มือใหม่หลาย ๆ คนยังไม่เข้าใจพื้นฐานของบิทคอยน์ที่มากพอจนเกิดความเข้าใจผิด
Table of Contents
คิดว่า คริปโตคือบิทคอยน์
นักลงทุนหลายคน มีความเข้าใจว่าเหรียญคริปโตทั้งหมดคือบิทคอยน์ เพราะการเคลื่อนไหวในตลาดนั้นจะยึดติดกับราคาของบิทคอยน์อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าบิทคอยน์จะยังคงครองอันดับหนึ่งมาโดยตลอด แต่บรรดา Alt coin สกุลต่าง ๆ ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ใช้ทำประโยชน์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่ถึงอย่างนั้น Bitcoin ก็ยังคงเป็นเหรียญที่มีความโดดเด่นและมีความแตกต่างกับ Alt coin สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อาจเป็นเพราะ BTC เป็นสกุลเงินแรกที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจนนำไปสู่ความเข้าใจผิด
คนก่อตั้งบิทคอยน์เป็นคนญี่ปุ่น
หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าผู้ก่อตั้งบิทคอยน์เป็นญี่ปุ่น อาจจะเป็นเพราะนามแฝงของเขานั้นมีชื่อที่ออกเสียงคล้ายภาษาญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครที่จะสามาถฟันธงได้ว่า Satoshi Nakamoto คือใคร และมีคนหลายส่วนที่พยายามเชื่อมโยงตลาดหุ้นกับการนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดูอัจฉริยะของผู้สร้างบิทคอยน์ว่าอาจมีความเกี่ยวโยงกับประเทศญี่ปุ่น ตลาดหุ้น นิเคอิ หรือค่าเงินเยน ซึ่งอาจจะมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ก็ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกก็ให้ความสำคัญกับคุณสมบัติหรือแก่นแท้ของ Bitcoin มากกว่าการสาวหาต้นตอหรือที่มาที่แท้จริงของมัน
ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ จึงไม่ปลอดภัย
Bitcoin มีความเป็นส่วนตัวที่สูงมาก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถตรวจสอบข้อมูลร่วมกันได้อย่างโปร่งใส แม้ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้สร้างที่แท้จริงเป็นใคร แต่เราเองก็สามารถที่จะเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้เก็บ Bitcoin ได้ด้วยตนเอง เหรียญที่คุณซื้อมาจะถูกเก็บใน Software Wallet ที่เป็นของ Exchange นั้นๆ ขณะที่ Private key ที่เป็นกุญแจในการเข้าถึง Wallet การใช้ Software Wallet จึงเหมาะกับนักลงทุนระยะสั้น (Hot Wallet) เพราะสามารถซื้อขายเหรียญได้ทันที โดยไม่ต้องทำการตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม แต่ในด้านความปลอดภัย เมื่อคุณซื้อและต้องการเก็บรักษาสินทรัพย์สินดิจิทัลเอาไว้ใช้ในระยะยาว การเลือกใช้ Hardware Wallet สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ด้วยกระเป๋าเงินที่เป็น Hardware Wallet นั่นจะมีความปลอดภัยมากกว่า (ถ้าไม่ทำรหัสผ่านหรือ Seed หาย) โดย Hardware Wallet เหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา (ที่เรียกว่า Cold Wallet) ทำให้ปลอดภัยจากการถูกแฮค หรือการโจรกรรมข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งแน่นอนว่า Bitcoin ที่คุณครอบรองอยู่นั้นมันจะเป็นของคุณ
โอนเงินแล้วไม่รู้ไปไหน จึงรู้สึกไม่โปร่งใส
เมื่อคุณโอนบิทคอยน์ให้ใครบางคน เครือข่ายคอมพิวเตอร์จะมองเห็นการโอนเงินทั้งหมด และรายการโอนเงินทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้บนระบบ ”ฺBlockchain” หลังได้รับการยืนยัน บล็อคเชนจะเป็นเหมือนบัญชีสาธารณะ โดยจะบันทึกการโอนบิทคอยน์ทุกครั้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ระบบเปิด และมันอยู่บนเครือข่ายที่ทำให้ทุกคนสามารถติดตามได้ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง ซึ่งจะว่าไปในศรรตวรรษนี้ไม่มีเทคโนโลยีใดที่โปร่งใสตรวจสอบได้มากเท่ากับเทคโนโลยี Blockchain นี้อีกแล้ว แต่ด้วยความซับซ้อนทางเทคนิค ทำให้มือใหม่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจ จึงเกิดความเข้าใจที่ผิด เมื่อโอนแล้ว มีการตรวจสอบจากระบบเเล้ว เงินดิจิทัลนั้นมีการเดินทางแน่นอน ส่วนที่จะเป็นเรื่องที่หลอกลวงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของคนที่หลอกกันไม่ใช่ Bitcoin
ความพยายามเข้าใจการลงทุนใน Bitcoin หรือ Cryptocurrency อาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนสำหรับบางคน แต่อาจเป็นเรื่องชวนคิดสำหรับใครหลายคนที่ต้องการเรียนรู้ในเรื่องใหม่ ๆ เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น การปรับตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเราสามารถใช้ความรู้เป็นเกราะป้องกันเพื่อจะได้มีความมั่นใจที่ต้องอยู่กับโลกที่ศิวิไลซ์ใบนี้ต่อไปในอนาคต